Friday, August 17, 2012

เที่ยวพนมเปญ 3

วันนี้เที่ยววันสุดท้ายแล้วค่ะ ตื่นแต่เช้าให้พ่อของเพื่อนขับรถมาส่งที่เกสเฮ้าต์ มีหลายราคาให้เลือกค่ะ $10,$13,$15,$20 ที่เจ้าของบล็อคพักคืนละ $15 ถ้าอยากแอร์ต้องเพิ่มอีก $8 ถือว่าแพง  ใกล้กับสถานีขนส่งกับ Central Market พรุ่งนี้จะต้องกลับตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไม่อยากกลับถึงกรุงเทพดึกมาก เพราะจะหารถกลับยาก  ไหนๆวันสุดท้ายแล้วก็ให้มันเต็มที่ไปเล๊ยยยย


แถวเกสเฮาท์โดมสีเหลืองเป็น Central Market หลังปั๊มน้ำมัน คือ สถานีขนส่ง ราคาที่พักเลยแพงลิ๊ววว






เอาสัมภาระเก็บเรียบร้อยแล้ว ก็ไปหาเพื่อนที่ PPIU ก่อน คุยไปคุยมา ปาไปเที่ยงกว่า ถึงเวลาปากต้องทำงานล๊ะ  เดินจาก PPIU มาหาของกิน ที่ orussey market (ตลาดโอรัสไซ) ไม่ไกลกันมาก

ที่นี่ละ... ตลาด “ตัวแม่” แห่งกรุงพนมเปญ มันคือตลาดสดขนาดใหญ่คือเต็มไปด้วยคนคราคร่ำมหาศาลเช้ายันค่ำ นอกจากตลาดแล้วก็ยังเป็นสถานีรถประจำทางไปตามจังหวัดต่างๆของที่ขายมีทั้งของสด ดอกไม้ เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องครัว อาหารนานาชนิด พูดง่ายๆภาษาชาวบ้าน คือ สากกระเบือยันเรือรบ








เดินลัดเลาะไปหลายซอก หลายมุม ก็เจอกับก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ไม่ใช่เฝ่อนะ ชามนี้เป็นเส้นขนมจีนกินกับน้ำสุกี้แต่เป็นกะปิ ฟังดูแปลกๆ แต่ความหิวไม่เคยปรานีใคร ฟาดเกลี้ยงชามเลย ฮ่าาๆๆ ชามละ 50 บาท



กินคู่กับชาเย็นใส่มะนาว ที่นี่อาหารแทบทุกอย่างจะใส่ส้มจี้ด รสชาติไม่คุ้นลิ้นเลยเหลือกว่าครึ่งแล้ว
แก้วนี้ 15 บาท อิ่มแปร๊..............ไม่ใช่ทุกอย่างจะใส่มะนาวเพราะมะนาวไม่นิยม อาจจะแพง ปลูกยากหรือว่าไงไม่รู้ แต่จะใส่ส้มจี้ดให้เปรี้ยวแทน



นั่งรถ รับจ้างกลับไป PPIU 80 บาท ระยะทางประมาณ 3 กิโล 8 คน  แต่ดูจำนวนคนกับค่ารถก็พอสมดุล  ฮ่าๆๆ



 ได้รถกันแล้วเราไปลุยกันทีแรกเลย.......
พระราชวัง Royal Palace แหล่งท่องเที่ยวทีแรกไม่ควรพลาด พระราชวังพนมเปญคือวังที่อยู่ของเจ้าสีหนุ รูปแบบการสร้างคล้ายกับวังที่วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง บริเวณวังสวยมากถ่ายรูป เดินเที่ยวชมได้ แต่ด้านในวังห้ามถ่ายรูป ราคาค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ $3 แต่เราเข้าโดยให้เพื่อนเขมรซื้อบัตรให้ เพราะ คนเขมรเองเสียแค่ 10 บาท พวกเราเลยไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ประตูทางเข้า จนคิดว่าปลอดภัย แอบโกงนิดๆ แต่ก็รอดไปอีกหลายบาท อิอิ  ไปดูด้านในกันดีกว่าค่ะ...........







ด้านในห้ามถ่าย เลยต้องเช๊ะๆ กันข้างนอก







นี่เป็นอีกโซนหนึ่งค่ะ


ห้องนี้ถ่ายรูปได้ จะเป็นเครื่องฉลององค์ และโถ ชาม เครื่องเงิน









อีกส่วนหนึ่งที่ห้ามถ่ายรูป ด้านในมี พระแก้วมรกต องค์ใหญ่







             จากพระราชวังเราไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ National museum เล่ากันมาว่าถ้าใครอยากที่จะรู้จะเห็นว่าเมืองเขมรมีที่มาที่ไปอย่างไรตั้งแต่สมัยอดีตมาจนวันนี้ ที่นี่มีคำตอบรอพร้อมอยู่แล้ว ที่สำคัญถ้าอยากชมความอลังการของมหาปราสาทศิลาแบบได้คุณค่าและอรรถรสควรมาโหมโรงและเรียกน้ำย่อยที่นี่ก่อน การจัดแสดงข้าวของของที่นี่เริ่มตามสมัยศิลปะของเขมร ตัวตึกเป็นพลับพลาสีแดง สร้างขึ้นในปี 1918

           ภายในจัดแสดงงานศิลปะเขมรที่สวยงามมากมาย บางชิ้นจัดเป็นงานศิลป์ที่งามที่สุดเท่าที่เคยมีปรากฎมา การเข้าชมควรซื้อหนังสือ Khmer Art in Stone ซึ่งเป็นคู่มือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ซึ่งหนังสือได้จำแนกหมวดหมู่และให้คำอธิบายเกี่ยวกับโบราณวัตถุส่วนใหญ่ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ เช่น เทวรูปพระวิษณุสมัยศตวรรษที่ 6 เทวรูปพระศิวะสมัยศตวรรษที่ 9 และมีรูปสลักเศียรพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

               โบราณวัตถุที่งดงามและน่าประทับใจอย่างยิ่ง คือ รูปหล่อพระนารายณ์บรรทมสินธุ์สำริดซึี่งขุดพบที่ปราสาทแม่บุญตะวันตกในเมืองพระนคร ...ราคาบัตร คนเขมร 500 เรียล หรือ 5 บาท ให้เค้าซื้อให้อีกตามเคย แฮ่ะๆๆ ด้านในห้ามรูป







เดินชมกันเหนื่อยๆ ร้อนๆ หาอะไรเย็นๆ ดื่มให้มันชุ่มคอดีกว่า เจอล๊ะ น้ำ AOI 55+ ว่าไปแล้ว น้ำอ้อยที่พนมเปญ ถือว่าเป็นเครื่องดื่มบังคับ ที่ใครมาพนมเปญ ต้องหาโอกาสดื่มให้ได้ซักครั้งหนึ่งค่ะ เค้าจะบีบส้มจี๊ดใส่ลงไปด้วย อร่อยดี (คอนเฟิร์มว่าท้องไม่เสีย) แก้วละ 1000 เรียล หรือ 10 บาทค่ะ






ประมาณ สี่โมงเย็นกว่าๆ ทุกคนเริ่มหน่อยล๊ะ ก็นัดกันว่า จะไปกินหมูกระทะ ตอน เกือบๆหนึ่งทุ่ม เพื่อนก็พาเราไปส่งที่ เกสเฮาท์ ให้เราพักผ่อน อาบน้ำ แต่เราเดินสำรวจของกิน ของแปลกมาเขียนบอล์ค ค่ะ ฮิฮิ

ทางผ่านกลับเกสเฮาท์คนที่ขับมอไซต์จะสวมหมวกกันน๊อคทุกคน เพราะกฏหมายเค้าแร๊งงงง


ห้างโสรยา ห้างใหญ่หรู ใจกลางกรุงพนมเปญ ด้านหน้าแนวอาคารทรงโค้งของห้าง เต็มไปด้วยมอเตอร์ไซด์ ด้านในบรรยากาศคล้ายๆกับมาบุนครอง


ถึงที่พักแล้ว เราก็จัดการเดินสำรวจ
       เมนูแรก ปอมมอนอัง ค่ะ หรือ ไข่เผา นั่นเอง  จะย่างด้วยไฟแรงๆ กินกับพริกไทย ผสมด้วยน้ำมะนาว น้ำตาล หน่อยๆ  อร่อยม๊ากกกกก





ต่อด้วยขนมรังผึ้ง แผ่นละ 5 บาท เอง





เมนูต่อไป ใครกล้ากิน ก็ลองดู นะค่ะ เจ้าของบล็อค ไม่สามารถจริงๆ ฮ่าๆๆ


          ตัวบึ้งทอด หรือ แมงมุมยักษ์ ถูกจับตายให้กลายเป็นอาหาร แบบว่า..อวัยวะทุกส่วนอยู่ครบ ไม่เว้นเขี้ยว ขา และขน ที่มีให้เลือกทั้งแบบย่าง อบ ทอด เมนูยอดนิยมของคนเขมร กัมพูชา ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ลองชิมกันนน





จิ้งหรีดทอด น่าตาดูน่ากิน แต่ไม่ดีกว่าค่ะ ระหว่างเดินทางตั้งแต่ปอยเปต ยัน พนมเปญ เราเจอเจ้านี่ ตลอดทาง


จวนเวลาแล้ว เพื่อนก็มารับไปกินหมูกระทะ
ชื่อร้าน ราชธานี ของไม่มีให้เลือกเยอะเหมือนบ้านเรา



แป๊บเดียวเท่านั้นทุกอย่าง เรียบเป็นน่ากอง ฮ่าๆๆ จ่ายไป คนละ 256 บาท




             หลังจากกินกันอิ่มหน่ำสำราญแล้ว เพื่อนเขมรก็ชวนไปนั่งเล่นที่โตนเลสาบ ระหว่างขับรถไปอากาศเย็นๆกำลังดี พนมเปญตอนกลางคืนเงียบมากกก สองทุ่มกว่า ไม่มีรถพลุ่นพล่านเหมือนบ้านเรา ถึงแล้วว ฮ่ะ!!นี่มันผับ เป็นชื่อภาษาฝรั่งเศส จะให้ฉันเข้าชุดนี้เนี่ยน๊ะ ควันหมูเต็มหัว เสื้อยืดกางเกงขาสั้น รองเท้าเตะ พอทำใจได้หันไปดูเพื่อนเขมรชุดบอล แต่ความมั่นใจสุดฤทธิ์ เข้าก็เข้าว่ะไหนๆก็ไหนๆล๊ะ

อย่างให้เห็นภาพกัน เลยไปลองดูใน Google อารมณ์ประมาณนี้เลยค่ะ





              อย่างแรกเพื่อนสั่งพันซ์มานั่งดื่ม เด็กเสิร์ฟ สาวสวย อันเชิญถั่วคั่ว มา นึกถึงพี่โน๊ต อุดม เลย ฮ่าๆๆ เจ้าของบล็อคไม่ดื่นนะจ๊ะ เด็กไทยอย่างเราดูลาดเลาก่อน มีทั้งฝรั่ง แขก ไทย ลาว จีน เวียต ก็สงสัยทำไมเค้าเต้นกันเบาๆจัง เพลงในผับก็ไม่เร้าใจเหมือนถนนข้าวสารบ้านเรา รู้สึกว่าไม่น่าเต้นเลย แต่ไม่อยากให้เสียเที่ยว ตั้งหลักปักฐานได้แล้ว แดนซ์กระจายเลยจ๊าาาา.........ว้าววว!! คนเขมรกรี๊ดสลบกับลีลาของพวกเรา เพื่อนเขมรบอกว่า ที่นี่เค้าซอฟๆ กัน อ้าาววหรอ ไม่ทันล่ะ


            พอหอมปากหอมคอต้องบายๆลาก่อนแล้ว ผับเอ๋ย เลยไปเดินเล่นริมแม่น้ำโขง บรรยากาศอะไรช่างดีขนาดนี้ ลมพัดเรื่อยๆ นั่งพักคุยกับเพื่อนแป๊บ ดูนาฬิกา ห้าทุ่มกว่า แล้ว ต้องกลับที่พัก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ตี 5 เพราะจะขึ้นรถกลับกรุงเทพ ตอนหกโมงเช้า ไม่อยากถึงกทม. ดึก


รู้สึกไม่อยากกลับเลย ค่ะ สนุกมาก ประทับใจทริปนี้สุดๆ

              ตีห้า อาบน้ำ แต่งตัว หลังจากเตรียมเป้ แล้วว เช็คเอาท์ เรียบร้อย เดินไปขึ้นรถที่ สถานีขนส่ง ราคาตั๋ว พนมเปญ-กรุงเทพ $17 ค่ะ

เดินมา 500 เมตร รีบเข้าห้องน้ำ คนเยอะมาก ซื้อเสบียงให้พร้อม กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แหะๆ






สรุปค่าใช้ 3 วัน 3 คืน ประมาณ 3000 + ค่ารถไปกลับ 1,400 = 4,400

ถึงกทม ก็ ทุ่มกว่าๆ นั่งรถจนเหนื่อย พักผ่อนกันยาว...........
เพื่อนๆลองมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆสักครั้งหนึ่งนะค่ะ  แล้วจะหลงรัก ^^
บ๊ายย บาย พนมเปญ เจอกัน ทริปหน้านะจ๊าาา Miss here much ^^

Wednesday, August 15, 2012

เที่ยวพนมเปญ 2

ตามต่อที่ Dreamland

ค่าเข้า 20 บาท ค่ะ
       Dreamland สวนสนุกในใจกลางกรุงพนมเปญ ในสวนสนุกแห่งนี้มีบริการเครื่องเล่นมากมาย

 แต่โรงภาพยนตร์ 4 มิติ เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยม และดึงดูดใจผู้คนมากที่สุด ราคาตั๋ว 3$/คน 

 เปิด 10.00 - 22.00 (ทุกวัน)




มาเริ่มต้นกับเครื่องเล่นที่เล่นเอาเจ้าของบล็อคเสี่ยวตับ ไต ไส้ พุง ที่สุด กรี๊ดดด ไม่ออกเลย
บัตร $3 ค่ะ



ต่อกันด้วยความเสี่ยวไม่แพ้กัน เหมือนกับมะม่วงเปรี้ยว น้ำปลาหวาน ฮ่าๆๆ
บวกกับเสียงพากย์ แร๊พ เขมร ไป๊กันเลยยยย
อันนี้ ราคา  $2 แต่มีโปรโมชั่นอยู่เรื่อยๆ ยิ่งเล่นหลายคน ยิ่งคุ้ม



ใครที่ชอบความเร็วต้องไม่พลาด เจ้านี่ Bumping Car 
จำราคาไม่ได้ค่ะ แหะๆๆ



ใครที่เหนื่อยแล้ว จะอ้วก จะเป็นลม อยากชมวิวรอบกรุงพนมเปญ แนะนำ ชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel จ๊า

มองด้านบนจะเห็น โตนเลสาบ
 

 นี่เป็นห้างคล้ายๆ พารากอนค่ะ


สวนสำหรับพักผ่อน, jogging และต่างๆ นานา


ถ้าใครชอบถ่ายรูปที่นี่มี สถานที่สวยๆให้ โพสตามใจชอบเล๊ยยย







ใครชอบแนว งานวัด มีร้านปาโป่ง แลกของรางวัล


เล่นๆกันหมดเรี่ยวแรง ไปเพิ่มพลัง กันได้
ร้านแรกคล้ายกับ MK ถัดไป เหมือนกัน KFC






เล่นตั้งแต่ยันค่ำหิวมากๆ ไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหาร ไทย-แขมร์
ร้านอาหารไทย-ขะแมร์ ต่างชาตินิยมมานั่งทาน แต่ค่อนข้างแพง





คนไทยกวาดเรีบยเพราะหิวจัดดด 


อิ่มแล้วจ๊าา


เช็คบิล
ห่อหมกปลา
แกงส้มปลากับกระเฉด
ไข่เจียวปู
ผัดยอดผักใส่ไก่
ทั้งหมด $40 พอดิบพอดี ส่วนทางร้านจะเสิร์ฟเป็นน้ำชาให้ ค่ะ


อิ่มมากไม่ไหวแล้ว พักผ่อนเก็บแรงก่อนค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ ตอนที่ สาม นะจ๊าา............